วัดพระนอนในอดีตคงเป็นวัดที่มีความสำคัญไม่น้อย สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นด้วยศิลาแลงจึงมีขนาดมโหฬาร เริ่มจากอุโบสถที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของวัด เหลือแต่ฐานของอาคารขนาดใหญ่โตกว้างขวาง ยกพื้นสูงที่เรียกว่า ไพที ด้านในยังมีเสาศิลาแลงรูปแปดเหลี่ยมสำหรับรองรับหลังคาเหลืออยู่ ฐานชุกชีที่เคยประดิษฐานพระประธานก็ยังอยู่ ทว่าพระพุทธรูปไม่เหลือแล้ว การสร้างอุโบสถอย่างโดดเด่นด้านหน้าวัด ตามแนวหลักของสถาปัตยกรรมรวมของวัดเช่นนี้ ไม่เป็นที่นิยมในสมัยสุโขทัย จึงสันนิษฐานว่าวัดนี้คงสร้างขึ้นในช่วงที่กรุงศรีอยุธยาแผ่อิทธิพลมาครอบคลุมพื้นที่แถบนี้แล้ว เคยมีการค้นพบใบเสมาสลักจากหินชนวนในบริเวณนี้ บางใบจำหลักลายพรรณพฤกษา บางใบสลักภาพเล่าเรื่อง เช่น การรบระหว่างทรพีกับสุครีพ จากเรื่องรามเกียรติ์ ปัจจุบันนำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร

ถัดจากอุโบสถ เป็นวิหารประดิษฐานพระนอน ซึ่งองค์พระพังลงจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว นอกจากชิ้นส่วนศิลาแลงที่ขึ้นรูปเป็นเค้าโครงว่าคือส่วนของพระบาทของพระพุทธรูปตกอยู่ เรียกการจำหลักศิลาแลงเป็นรูปร่างคร่าวๆ อย่างนี้ว่า "โกลน" เสาของวิหารเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทำจากศิลาแลงทั้งต้น มีขนาดมโหฬาร กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมีชื่อเสียง เป็นที่มาของวรรคหนึ่งในคำขวัญประจำจังหวัด คือ "กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ"

ถัดจากวิหารพระนอนเป็นเจดีย์ประธานของวัด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาทอดพระเนตรเมื่อคราวประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร ทรงยกย่องว่าเป็นเจดีย์ที่มีทรวดทรงงามล้ำเลิศ ทรงถ่ายภาพไว้หลายภาพ

3 สถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง

ด้านหน้าฝั่งตรงกันข้ามกับวัดมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยม มีอาคารแบ่งเป็นห้องเล็กๆ สำหรับตักน้ำในบ่อมาล้างมือล้างหน้า วัดนี้ได้รับอิทธิพลของเขมรส่งผ่านมาสมัยอยุธยาตามความเชื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ว่าฆราวาสควรชำระสิ่งสกปรกก่อนเข้าไปภายในเขตวัด

เสาสี่เหลี่ยมของพระวิหารทั้งต้น ตัดจากศิลาแลงท่อนเดียว คาดว่ามีน้ำหนักมากถึง 30 ตัน ความสูง ประมาณ 6-7 เมตร รวมที่ฝังลงไปใต้ดิน ขนาดเสาโดยรอบประมาณ 3 คนโอบ นักวิชาการยังไม่พบหลักฐานว่าคนโบราณยกเสาศิลาแลงเหล่านี้ขึ้นมาจากบ่อขุดได้อย่างไร

ศิลาแลงขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายและด้านขวาของผนังวิหาร แม้สึกกร่อนไปมากแล้วแต่ยังจินตนาการได้ว่ามีรูปลักษณ์คล้ายเศียรและพระบาทของพระพุทธรูป จึงสันนิษฐานว่า เดิมมีพระนอนปางไสยาสน์ประดิษฐานติดกับผนังกลางวิหาร

ข้อมูลติดต่อ

ชื่อผู้ติดต่อ :

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

ที่อยู่ :

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ต.หนองปลิง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร 62000

เบอร์โทรศัพท์ :

055-854-736

พิกัด :

16.4990299, 99.514927

ข้อมูลทั่วไป

วันทำการ :

ทุกวัน

เวลาทำการ :

08.00-18.00 น.

ค่าเข้าชม :

คนไทย 20 บาท/คน

ต่างชาติ 100 บาท/คน

ค่าเช่าพาหนะ :

รถจักรยาน 30 บาท/วัน/คัน (สามารถเช่าได้ ที่ด้านหน้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย)

รถจักรยานเสือภูเขา 50 บาท/วัน/คัน

รถราง 1-5 คน เหมา 100 บาท/คัน

รถราง 6 คนขึ้นไป คิดตามจำนวนคน/คนละ 20 บาท

สามารถเช่าได้ที่บริเวณป้อมจำหน่ายบัตร 4 และ 5 ภายในอุทยานประวัติศาสตร์
รถราง 1 คัน นั่งได้ไม่เกิน 15 คนรวมคนขับ
จุดขึ้นรถรางอยู่หน้าศูนย์บริการข้อมูล

สัญลักษณ์

แรงจูงใจ :

ประเภทของสถานที่

การเดินทาง

Touch Point

กิจกรรม

แนะนำการเดินทาง

จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเดินทางไป อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร สามารถเดินทางไปเที่ยวชมด้วยการ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ และรถสองแถวเท่านั้น โดยวัดระยะทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยได้เป็นระยะทาง 77.9 กิโลเมตร

วิธีการเดินทาง

จากอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเดินทางไป วัดพระนอน ซึ่งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เขต 1 โดยวัดระยะทางจากประตูทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ได้เป็นระยะทาง 1.9 กิโลเมตร

จุดสังเกต

ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เขต 1 ใกล้กับฆ้องชัย ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เขต 1

ที่ตั้ง

ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เขต 1

แผนที่

สิ่งที่ต้องห้ามพลาด

ศิลาแลงใหญ่ เสาในวิหารพระนอนที่มีขนาดใหญ่และมีหลายต้น กับปริศนาชวนให้ขบคิดว่าช่างในสมัยโบราณมีวิธีการทำ ขนย้าย และประกอบกับอาคารได้อย่างไร

ห้องน้ำหน้าวัด หลายวัดในเขตอรัญญิกของเมืองโบราณกำแพงเพชร ยังปรากฏห้องน้ำและบ่อน้ำตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหลักของวัด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชำระร่างกายให้สะอาด พร้อมสำหรับการเข้าวัดทุบุญ ชำระจิตใจต่อไป

ใบเสมาสลักหิน มีลวดลายงดงาม ปัจจุบันนำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร

ข้อแนะนำ

อากาศค่อนข้างร้อน ควรพกร่ม หรือ หมวก และน้ำดื่ม ระหว่างการเยี่ยมชม

แสงแดดจ้า ควรทาโลชั่นกันแดด เพื่อป้องกันผิวไหม้

วัดพระนอน ถือเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง แต่เนื่องจากเกิดการชำรุดนักท่องเที่ยวควรจะศึกษาข้อมูลมาเบื้องต้นเพื่อให้เข้าใจและสามารถซึมซับประวัติศาสตร์ได้อย่างถ่องแท้

ข้อควรระวัง

หากเดินทางโดยลำพัง ให้ระมัดระวังความปลอดภัย

อย่าปีนป่าย โบราณสถาน ในจุดที่เจ้าหน้าที่เตือน

โปรดปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่อย่างรัดกุม

ระวังเรื่องแมลงมีพิษ เช่น ผึ้ง มด

ไม่ควรแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมในเขตศาสนสถาน