Top

อาณาจักสุโขทัย

ภูมิปัญญา ต้นทุน และรุ่งอรุณแห่งความสุข
พื้นที่ในแถบภาคเหนือตอนล่าง พบหลักฐานว่ามีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยแล้วตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย หรือย้อนหลังกลับไปไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ปี แหล่งโบราณคดีหลายแห่งค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ ภูมิปัญญา การทำมาหากิน อาทิ กลองมโหระทึก ตะกรันโลหะ ใบมีดหิน เป็นต้น ทำให้ทราบว่าผู้คนในแถบนี้มีภูมิรู้ และมีการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คนในถิ่นอื่น จึงมีพัฒนาการจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย จนเข้าสู่ยุคทวารวดี ถึงช่วงเวลาที่วัฒนธรรมเขมรแผ่อิทธิพลเข้ามาครอบคลุม

ต้นกำเนิดของอาณาจักรสุโขทัยที่เราคุ้นเคยกันดี เริ่มต้นขึ้นจากการที่พ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางท่าว ร่วมมือกันขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกไปจากเมืองสุโขทัย แล้วสถาปนาพ่อขุนบางกลางท่าวขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า "ศรีอินทราทิตย์" เป็นต้นวงศ์ของกษัตริย์ที่ครองเมืองนี้ต่อมาอีก ๙ พระองค์ ซึ่งรู้จักกันในเวลาต่อมาว่า "ราชวงศ์พระร่วง"


เชื่อกันว่าแต่เดิมกำแพงเมืองสุโขทัยมีเพียงชั้นในสุดด้านเดียว สองชั้นนอกสร้างขึ้นในสมัยหลัง มีการขุดค้นพบเศษเครื่องถ้วยจีมีอายุตรงกับช่วงอยุธยาตอนต้นในกำแพงเมืองชั้นนอก ซึ่งสนับสนุนแนวคิดนี้ได้อย่างดี สันนิษฐานว่าที่กำแพงต้องมีสามชั้นคั่นด้วยคูน้ำ เป็นเพราะเหตุผลในการชลประทาน เพื่อการระบายน้ำมากกว่าสิ่งอื่น

ที่จริงแล้ว ศิลาจารึกวัดศรีชุม บอกไว้อย่างชัดเจนว่า พระราชบิดาของพ่อขุนผาเมือง คือ "พ่อขุนศรีนามนำถุม" นั้น "เสวยราชย์ในนครสองอัน อันหนึ่งชื่อสุโขไท อันหนึ่งชื่อศรีเสชนาลัย" ย่อมแสดงว่าเมืองนี้มาแล้วก่อนหน้านั้น ส่วนจะก่อนนานเท่าใด ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน นักวิชาการเชื่อว่า นครเหล่านี้คงมีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะชุมทางการค้าบนเส้นทางติดต่อของอาณาจักรสำคัญรายรอบ อาทิ เขมร และ พุกาม ก่อนจะค่อยๆทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาศัยการค้า และความสัมพันธ์ทางการเมือง จนกลายเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในที่สุด

ข้อสนับสนุนที่น่าสนใจของแนวคิดนี้ คือบรรดาภูมิปัญญาของคนสุโขทัย ที่เกิดขึ้นได้จากการผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปกรรม ภาษา ศาสนา พิธีกรรม รวมถึงองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ ก่อนจะค่อยๆหลอมรวมจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถถ่ายทอด และส่งอิทธิพลกลับไปให้ดินแดนเหล่านั้น และสืบทอดต่อมาไม่รู้จบสิ้น

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ราชวงศืพระร่วง ตลอดเวลาประมาณ ๒๐๐ ปี อาณาจักรสุโขทัยผ่านช่วงเวลาที่รุ่งเรือง และซบเซามาอย่างโชกโชน ก่อนที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจะผนวกอาณาจักรนี้เข้ากับกรุงศรีอยุธยาในราวปี พุทธศักราช ๑๙๘๑ แต่เมืองต่างๆแถบนี้ก็ยังดำรงอยู่ต่อไป โดยยังเก็บรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเอาไว้ได้อย่างดี แม้จะผ่านช่วงเวลาแห่งการกวาดต้อน และการอพยพเข้ามาของผู้คนจากต่างถิ่นอยู่บ้างก็ตาม และเอกลักษณ์เหล่านี้นี่เองที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ "มรดกพระร่วง" ที่ควรภาคภูมิใจในปัจจุบัน


ย้อนกลับ