Top

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

(วัดพระปรางค์)
พระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร ณ เมืองศรีสัชนาลัย
(อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย, อ.ศรีสัชนาลัย, จ.สุโขทัย)
เมืองศรีสัชนาลัยมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย แต่ก็คงหนีไม่พ้นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ 1 ในวัดใหญ่ที่ยังคงมีการบูรณะ และมีพระภิกษุสงฆ์อาศัยอยู่ภายในวัด

วัดศรีรัตนมหาธาตุ หรือ วัดพระบรมธาตุเมืองเฉลียง อีกชื่อว่า วัดพระปรางค์ จากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่า วัดนี้มีอายุตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ คือ ประมาณ 800 ปีมาแล้วเป็นอย่างต่ำ พระอารามหลวงที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมหาเจดีย์ของประเทศไทยแห่งนี้ มีประวัติเป็นมาที่ยาวนาน โดยศึกษาได้จากศิลปกรรมอันงดงามภายในวัด นับตั้งแต่ซุ้มกำแพงแก้ว ที่มียอดเป็นพุ่ม มีรูปใบหน้าบุคคลสี่ทิศ ประดับด้วยพระพุทธรูป รูปนางอัปสรร่ายรำ ลายกระหนก ดอกไม้ และลายราหูอมจันทร์ ซึ่งเป็นลวดลายที่แสดงอิทธิพลศิลปะเขมรแบบบายน ช่วยยืนยันความเก่าแก่ของวัดแห่งนี้ และสันนิษฐานว่าที่นี่คือศูนย์กลางของเมืองเก่าแก่ที่ชื่อ เชลียง ที่มีมาก่อนเมืองศรีสัชนาลัย ชาวบ้านในปัจจุบันจึงนิยมเรียกวัดนี้ว่า พระธาตุเชลียง

สถาปัตยกรรมประธานของวัด คือพระปรางค์ศิลปะอยุธยา หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีบันไดทางขึ้นสูงชันเข้าสู่ห้องครรภคฤหะ หรือห้องสำหรับประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งภายในห้องมีเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ขนาดย่อมประดิษฐานอยู่ ทำให้มีนักวิชาการสันนิษฐานว่า แต่เดิมมีเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูมตั้งอยู่ที่นี้ แล้วสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาทรงสร้างพระปรางค์ครอบไว้ หลังจากทรงได้ครอบครองพื้นที่แถบนี้

ด้านหน้าพระปรางค์ มีพระวิหารหลวงซึ่งภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้น ศิลปะสุโขทัยเป็นพระพุทธรูปประธาน รายล้อมด้วยพระพุทธรูปขนาดย่อม เบื้องขวาของพระประธาน มีพระพุทธรูปลีลา ปูนปั้น ซึ่งมีความงามล้ำเลิศ เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ผู้มาเยือนสุโขทัยไม่ควรพลาดสักการะ

ด้านหลังพระปรางค์ ยังมีพระธาตุมุเตา ซึ่งมีตำนานเล่าถึงการสร้างเจดีย์แข่งกันระหว่างพระร่วง และพระลือ พระร่วงเกรงว่าน้องชายจะสร้างเจดีย์สูงเท่ากับของตน จึงเตะยอดเจดีย์ของน้องชายหักกระเด็นไปตกที่เมืองพิษณุโลก เจดีย์มุเตาที่พระลือสร้างจึงไม่มียอด ส่วนพระปรางค์ที่พระร่วงสร้างจึงเสร็จสมบูรณ์สูงใหญ่สวยงาม ถัดจากพระมุเตาไป มีพระอัฏฐารสประทับยืนองค์หนึ่ง และวิหารที่ปรักพังไปตามกาลเวลา

นอกกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออก เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ ภายในมีพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ พร้อมพระพุทธรูปรายล้อมหลายองค์ ด้านหน้ามีพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ มีรูปธรรมจักรกลางฝ่าพระหัตถ์ ชาวบ้านจึงเรียกว่าหลวงพ่อธรรมจักร เชื่อกันว่าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์เที่ยงธรรมมาก ผู้มีคดีความขัดแย้งกันมักมาสาบานต่อหน้าท่าน ใครผิดคำสาบานจะมีอันเป็นไป ประชาชนขอพรก็สัมฤทธิ์ผล

ถัดจากพระอุโบสถมาด้านทิศตะวันออกของวัด เป็นที่ตั้งของมณฑปพระร่วง ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ๒ องค์ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "พระร่วง พระลือ" ที่จำลองมาจากองค์จริง สร้างด้วยสำริด สมัยอยุธยา ถูกเชิญไปเก็บรักษาและจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง อ.เมือง จ.สุโขทัย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งสามารถเล่าวิถีชีวิตของคนเมืองนี้ได้อย่างน่าสนใจ ทุกสุดสัปดาห์ปลายเดือนจะมีการจัดตลาดนัดใครใคร่ค้า ค้า ซึ่งมีร้านรวงมากมายมาให้จับจ่าย และงานหัตถกรรมมากมายมาจัดแสดงและเลือกจับจองเป็นเจ้าของ ในบรรยากาศงดงามของวัดพระปรางค์ ชวนนึกถึงงานวัดในอดีต ทั้งนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคมของทุกปี จะมีการจัดงานสมโภชพระศรีรัตนมหาธาตุและงานประจำปี ซึ่งจัดติดต่อกันมากว่าร้อยปี จะได้นำผ้าสีแดงขึ้นไปห่มยอดพระปรางค์ โดยผู้ที่ขึ้นไปทำหน้าที่ห่มนั้นปีนขึ้นไปด้วยมือเปล่า และทำหน้าที่นี้สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่ควรพลาดชม

ซึ่งประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ ได้แก่
  • ปรางค์ประธาน ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูนเสร็จแล้วลงสีชาดทับ ลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบศิลปกรรมสมัยอยุธยา ภายในซุ้มโถงมีสถูปรูปดอกบัวตูมขนาดเล็กโผล่ขึ้นมา ซึ่งเป็นหลักฐานว่ามีการสร้างครอบทับ ตามผนังภายในองค์ปรางค์พบว่ามีร่องรอยของจิตรกรรมฝาผนังแต่ลบเลือนไปมาก ส่วนบริเวณเรือนธาตุด้านหน้ามีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ ฐานปรางค์องค์นี้มีลักษณะเป็นวิหารคต 3 ชั้น ก่อผนังทึบและเจาะช่องแสง ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วฐานปรางค์แผ่ขยายกว้างออกไปทั้ง 3 ด้าน (ด้านหน้าเป็นพระวิหาร) คล้ายสร้างครอบสถูปหรือเจดีย์ที่สำคัญไว้ภายใน ซึ่งคงเป็นสิ่งก่อสร้างในช่วงสุโขทัยตอนต้น เนื่องจากได้ขุดค้นพบฐานโบราณของสิ่งก่อสร้าง ก่อด้วยอิฐอยู่ใต้ฐานพระวิหารหลวง นอกจากนี้ยังพบกระเบื้องเชิงชายรูปนางอัปสรและเทวดา ซึ่งมีลักษณะร่วมสมัยศิลปะเขมรแบบบายน เช่นเดียวกับลายปูนปั้นยอดซุ้มประตูกำแพงวัด ซึ่งทำเป็นรูปพระพักตร์ของพระอวโลกิเตศวร อยู่ด้านบนทั้ง 4 ทิศ แบบซุ้มประตูนครธม ในกัมพูชา ด้านล่างเป็นรูปเทพธิดานั่งในกรอบซุ้ม ด้านล่างเป็นรูปนางอัปสรร่ายรำ

  • ฐานพระวิหารหลวงพ่อโต อยู่ด้านหน้าพระปรางค์ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัยประทับ อยู่ตรงกลางขนาบด้วยพระพุทธรูปขนาดเล็กประทับยืนทั้ง 5 ข้าง ถัดจากพระพุทธรูปปางมารวิชัยทางด้านขวามีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลาที่มี ลักษณะงดงาม

  • กำแพงวัด เป็นศิลาแลงแท่งกลมขนาดใหญ่ปักเรียงชิดติดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 60 เมตร ยาว 90 เมตร มีคานทับหลังกำแพง มีทางเข้าออกด้านหลัง เหนือซุ้มประตูทำเป็นรูปคล้ายหลังคายอด เหนือซุ้มขึ้นไปมีปูนปั้นเป็นรูปพระพักตร์อวโลกิเตศวร 4 หน้าตามแบบซุ้มประตูนครธม ของกัมพูชา

  • พระธาตุมุเตา อยู่ด้านหลังปรางค์ประธานนอกกำแพงแก้ว แต่ก็ยังล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงที่ทำเป็นแท่งสี่เหลี่ยมบาง ซึ่งน่าจะเป็นคนละสมัยกับกำแพงศิลาแลงที่ทำเป็นท่อนใหญ่ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง ตัวพระธาตุมุเตาก่อด้วยศิลาแลงฐานเป็นเหลี่ยมซ้อนกัน 4 ชั้น ต่อจากนั้นเป็นบัวถลา 3 ชั้น ส่วนที่อยู่เหนือขึ้นไปพังทลายลงมาหมด ลักษณะพระธาตุมุเตาเป็นเจดีย์ทรงมอญ ในการขุดแต่งปี พ.ศ. 2535 ได้พบทองจังโกประดับส่วนยอดของเจดีย์ มณฑปพระอัฏฐารศ อยู่ด้านหลังของพระธาตุมุเตา เดิมน่าจะเป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ หลังคามุงกระเบื้องเครื่องไม้ ต่อมาพระพุทธรูปในอิริยาบถอื่น ๆ สามองค์ได้ชำรุดคงซ่อมแซมดัดแปลงที่เหลือเป็นพระพุทธรูปยืนอยู่ภายในซุ้ม คูหาองค์เดียว

  • วิหารสองพี่น้อง อยู่ทางซ้ายพระอัฏฐารศ ก่อด้วยศิลาแลง มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ๒ องค์ อยู่บนแท่นพระ จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่าฐานวิหารสองพี่น้องก่อทับอาคารโบราณก่ออิฐหลังหนึ่ง ข้างขวาพระวิหารสองพี่น้องพบฐานรอยพระพุทธบาท ด้วย

  • โบสถ์ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหาร ปัจจุบันทางวัดได้บูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งหลัง โดยสร้างทับโบสถ์เดิม

  • กุฎิพระร่วง-พระลือ ชาวท้องถิ่นเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า ศาลพระร่วง-พระลือ ได้รับการบูรณะซ่อมแขมในปีเดียวกันกับโบสถ์ ลักษณะเป็นมณฑปฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้าง หลังคาทรงมณฑปก่ออิฐซ้อนกัน 4 ชั้น แต่เดิมเคยประดิษฐานรูปเคารพสององค์ ลักษณะเหมือนกันคือ ทรงเครื่องแสดงท่าคล้ายพระพุทธรูปปางประทานอภัย แต่สวมหมวก ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นประติมากรรมของพระร่วงกับ พระลือ สองพี่น้อง วีรบุรุษต้นวงศ์พระร่วงสุโขทัยตามตำนานในพงศาวดารเหนือ ปัจจุบันประติมากรรมทั้งสององค์ย้ายไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง สุโขทัย

  • ในทุกๆ ปี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือ วัดพระปรางค์ จะมีการจัดงานพระปรางค์ ทั้งหมด 5 วัน 5 คืน



    ข้อมูลติดต่อ
    ชื่อผู้ติดต่อ :
    อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
    ที่อยู่ :
    หมู่ 6 ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
    เบอร์โทรศัพท์ :
    พิกัด :
    17.42924, 99.8110220
    Facebook :

    ข้อมูลทั่วไป
    วันทำการ :
    ทุกวัน
    เวลาทำการ :
    แนะนำให้เยี่ยมชมก่อนเวลา 15.00 น.
    ค่าเข้าชม :
    -
    ค่าเช่าพาหนะ :
  • รถจักรยาน 20 บาท/วัน/คัน
  • สามารถเช่ารถจักรยานได้ที่บริเวณด้านหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย (เช่าได้ถึง 18.00 น.)

    ชมทัศนียภาพ
    พักผ่อน
    เรียนรู้ประวัติศาสตร์
    หาประสบการณ์
    เติมเต็มจิตวิญญาณ
    โบราณสถาน
    เดินเท้า
    ปั่นจักรยาน
    สามล้อเครื่อง
    รถราง
    Information Center
    ที่จอดรถ
    จุดถ่ายภาพ
    ตำนานพระร่วง
    ป้ายแผนที่
    กษัตริย์เสด็จ
    กิจกรรมแบบเดี่ยว
    กิจกรรมแบบกลุ่ม
    เพื่อความรู้์
    กิจกรรมกลางแจ้ง
    แนะนำการเดินทาง
    จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยลัยเดินทางไป อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย สามารถเดินทางไปเที่ยวชมด้วยการ รถจักรยานยนต์ , รถยนต์ และรถประจำทางวินทัวร์เท่านั้น โดยวัดระยะทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยได้เป็นระยะทาง 70.5 กิโลเมตร
    วิธีการเดินทาง
    ระยะทาง
    ระยะเวลา
    หมายเหตุ
    รถมอเตอร์ไซค์
    70.5 กม.
    3-3.30 ชม.
    ไม่แนะนำ
    รถยนต์
    70.5 กม.
    1.25-1.50 ชม.
    -
    รถสองแถว (สุโขทัย-กำแพงเพชร)
    70.5 กม.
    2-2.30 ชม.
    จุดขึ้นรถ

    วิธีการเดินทาง
    จากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเดินทางไป วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดพระปรางค์) ซึ่งอยู่ภายนอกอุทยานประวัติศาสตร์ โดยวัดระยะทางจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยได้เป็นระยะทาง 2.8 กิโลเมตร
    วิธีการเดินทาง
    ระยะทาง
    ระยะเวลา
    หมายเหตุ
    เดินเท้า
    2.8 กม.
    35-45 นาที
    -
    รถจักรยาน
    2.8 กม.
    13-20 นาที
    -
    รถมอเตอร์ไซค์
    2.8 กม.
    9-15 นาที
    -
    รถยนต์
    2.8 กม.
    7-10 นาที
    ถนนเส้นเล็กและแคบ

    จุดสังเกต
    วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดพระปรางค์) ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย ทางทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ตรงช่วงแหลมโค้งข้อศอกของแม่น้ำยม

    ที่ตั้ง
    ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตรงช่วงแหลมโค้งข้อศอกของแม่น้ำยม

    แผนที่

    สิ่งที่ต้องห้ามพลาด
  • องค์พระปรางค์
  • พระธาตุมุเตา
  • มณฑปพระอัฏฐารศ
  • วิหารสองพี่น้อง
  • กุฏิพระร่วง-พระลือ
  • สักการะบูชา
  • ขอพร

  • ข้อแนะนำ
  • ไม่ควรพลาดชมพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองศรีสัชนาลัย
  • ไม่ควรพลาดชมทิวทัศน์สวยงามบนสะพานแขวนของวัด
  • โปรดอย่าปีนป่ายโบราณสถาน
  • โปรดแสดงกิริยาเหมาะสมเพื่อให้เกียรติต่อสถานที่

  • ข้อควรระวัง
  • หากเดินทางโดยลำพัง ให้ระมัดระวังความปลอดภัย
  • อย่าปีนป่าย โบราณสถาน
  • โปรดปฏิบัติตามคำเตือนอย่างรัดกุม



  • สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

    ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจได้อีกมากมาย

    ย้อนกลับ